การฟอกเลือด คือ
กระบวนการนำเลือดออกจากร่างกายมาทำให้สะอาดขึ้นโดยผ่านเครื่องไตเทียมเพื่อกำจัดของเสีย ปรับระดับเกลือแร่ในเลือด และปรับสมดุลของน้ำในร่างกายให้เป็นปกติในผู้ป่วยโรคไตวายทั้งชนิดเฉียบพลันและชนิดเรื้อรัง
ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการฟอกเลือด
ใครควรได้รับการฟอกเลือด?
- ผู้ป่วยที่มีอาการไตวายเฉียบพลัน อาจได้รับการฟอกเลือดเพียงไม่กี่ครั้ง เมื่อไตกลับมาทำหน้าที่ได้ดีขึ้นแล้วก็ไม่จำเป็นต้องฟอกเลือด
- ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ปัจจุบันผู้ป่วยเหล่านี้ เป็นกลุ่มใหญ่ที่ต้องได้รับการฟอกเลือดตลอดชีวิตหรือจนกว่าจะผ่าตัดเปลี่ยนไตใหม่
- ผู้ป่วยโรคหัวใจวายบางราย ที่ไม่สามารถรักษาด้วยยาได้
จำเป็นหรือไม่ต้องฟอกเลือดไปตลอดชีวิต?
- ไม่จำเป็น ในกรณีผู้ป่วยที่มีอาการไตวายเฉียบพลัน สามารถหยุดได้เมื่อไตกลับมาทำงานตามปกติ ซึ่งจะใช้เวลาเร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของไตในแต่ละคน (บางรายอาจใช้เวลาแค่ 1-2 สัปดาห์ แต่บางรายอาจนานถึง 6 เดือน)
- จำเป็น ในกรณีผู้ป่วยที่มีอาการไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย จำเป็นต้องรับการฟอกเลือดไปตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะได้รับการปลูกถ่ายไต
การฟอกเลือดแต่ละครั้งใช้ระยะเวลานานเท่าไร?
- สำหรับผู้ป่วยที่เป็นไตวายเฉียบพลัน โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณครั้งละ 4 – 5 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับระดับของเสียและสุขภาพของผู้ป่วย
- สำหรับผู้ป่วยที่เป็นไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ความถี่ในการฟอกเลือด สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับระดับความพอเพียงในการกำจัดของเสียและปริมาณปัสสาวะของผู้ป่วย ถึงต้องฟอกเลือดทุกวัน
หลังฟอกเลือดแล้วจะหายจากโรคไตหรือไม่?
- การรักษาผู้ป่วยภาวะไตวายเฉียบพลัน การฟอกเลือดจะช่วยรักษาชีวิตผู้ป่วยไว้ จนกว่าไตจะฟื้นตัวกลับมาทำงานตามปกติ
- การรักษาผู้ป่วยภาวะไตวายเรื้อรัง การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมเป็นการรักษาตัวผู้ป่วยให้มีชีวิตอยู่ เนื่องจากไตเสียไปแล้วอย่างถาวร
การฟอกเลือดเจ็บไหม?
โดยทั่วไปการฟอกเลือดมักจะไม่เจ็บปวด แต่จะมีบางกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการเส้นเลือดจมอาจจะได้รับความเจ็บปวดเล็กน้อย เป็นเพียงเหมือนการเจาะเลือดหรือการฉีดยาธรรมดา ดังนั้น การฟอกเลือดจึงไม่น่ากลัวแต่อย่างใด
ผลข้างเคียงจากการฟอกเลือด?
อาจมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นได้ เช่น เหนื่อยง่าย ร่างกายอ่อนแอ หงุดหงิดและเครียด ดังนั้น ผู้ดูแลควรทำความเข้าใจและคอยให้กำลังใจอยู่เสมอ
การป้องกันโรคไต
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ วันละ 6 – 8 แก้ว เพราะไตมีหน้าที่รักษาสมดุลของร่างกาย หากมีการขาดน้ำจะทำให้เกิดไตวายเฉียบพลันได้
- รับประทานอาหารที่สุกสะอาด เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดท้องเสียซึ่งจะทำให้เกิดการขาดน้ำเฉียบพลัน ควรงดอาหารเค็มและรสจัดอย่างเด็ดขาด เพราะจะยิ่งทำให้เกิดความดันโลหิตสูงและไตเสื่อมเร็วขึ้น
- ออกกำลังกาย คนเป็นโรคไตสามารถออกกำลังกายได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
- ควบคุมน้ำหนัก เพราะคนอ้วนจะมีการเผาผลาญพลังงานสูงกว่าปกติ ร่างกายทำงานมากขึ้น ทั้งหัวใจ ปอด ความดันโลหิตสูง ไตทำงานหนักขึ้น จึงทำให้ไตเสื่อมเร็ว