อาการตาแห้ง Dry Eyes
ตาแห้ง เกิดขึ้นได้กับทุกคน มีสาเหตุจากอายุที่มากขึ้นและการใช้สายตาติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ซึ่งพบได้บ่อยขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากพฤติกรรมของคนส่วนใหญ่ที่ใช้เวลาติดอยู่กับหน้าจอ ทำให้เกิดอาการเคืองตาและตามัวเป็นๆหายๆ
อาการตาแห้ง
- คันตา แสบตา ระคายเคืองตา
- มีความรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมคล้ายทรายหรือฝุ่นอยู่ในตา
- แพ้แสง แพ้ลม
- บริเวณตาขาวมีสีแดงจากการอักเสบ ขอบเปลือกตาแดง
- ตามัวในบางขณะ
- รู้สึกไม่สบายตาเมื่อตื่นนอน
ถ้าคุณมีอาการดังกล่าวข้างต้น ควรจะไปตรวจกับจักษุแพทย์ ว่าคุณเป็นโรคตาแห้งหรือไม่
สาเหตุของการเกิดอาการตาแห้ง
สาเหตุของการเกิดอาการตาแห้ง ยังไม่ทราบแน่ชัดแต่พบว่ามีหลายปัจจัย ได้แก่
1. อายุ เมื่อสูงวัยร่างกายเราจะสร้างน้ำตาลลดลง ในผู้หญิงจะมีโอกาสพบได้บ่อยกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะผู้หญิงวัยหลังหมดประจำเดือน เป็นผลมาจากระดับฮอร์โมนที่ลดลงทำให้สารคัดหลั่งต่างๆ ในร่างกายรวมทั้งน้ำตาก็ลดปริมาณลงไปด้วย
2 .การทำงานของเปลือกตาบกพร่อง เช่น หลับตาไม่สนิท,กระพริบตาน้อย,เปลือกตาผิดรูป
3. ยาบางชนิด อาจทำให้เกิดอาการตาแห้งได้ เช่น ยาลดน้ำมูก,ยาแก้หวัด,ยารักษาภูมิแพ้ ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง,ยาโรคหัวใจ,ยาคลายเครียด,เป็นต้น
4. ใช้สายตาติดต่อกันเป็นเวลานานๆ เช่น การทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์,การอ่านหนังสือ
5. สภาพแวดล้อม ที่มีฝุ่นละอองมาก มีหมอก,ควัน,ลมพัดแรง,มีแสงสว่างหรือแดดจ้า ห้องปรับอากาศที่มีอากาศแห้ง
6. คอนแทคเลนส์ การใส่คอนแทคเลนส์ที่ไม่เหมาะสมหรือไม่มีคุณภาพ,การผ่าตัดกระจกตาหรือ เปลี่ยนกระจกตา,การอักเสบของกระจกตาจากเชื้อเริม นอกจากนี้ยังรวมถึงการเป็นอัมพฤกษ์ที่ใบหน้า
7. โรคบางชนิด ประกอบด้วยโรคเบาหวาน กลุ่มอาการแพ้ยา,ริดสีดวงตา และอาการผิวตาเสื่อม จากสารเคมี รวมทั้งผื่นแพ้อย่างรุนแรง
วิธีรักษาและป้องกันโรคตาแห้ง
1. ให้น้ำตาเทียมชดเชย น้ำตาธรรมชาติที่มีไม่เพียงพอ พร้อมทั้งเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำให้ กระพริบตาน้อยลง เช่น พักสายตาเป็นระยะๆ เมื่อต้องทำงานที่ต้องจ้องหรือใช้สายตานานๆ
2. ลดการระเหยของน้ำตา โดยหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อม เช่น สวมแว่นกันแดด กันลมเมื่อต้องออกไปสัมผัสถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ อาจจำเป็นต้องอุดรูน้ำตาในบางรายที่มีอาการตาแห้งมากๆ
3. ลดการอักเสบของตา เช่น หยุดใส่เลนส์สัมผัส หรือรักษาการอักเสบของเปลือกตาอย่างต่อเนื่อง
แต่ละโรคต่างมีสาเหตุและวิธีการรักษาที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ดีเราสามารถดูแลรักษาสุขภาพตา ของเราได้ไม่ยากเพียง
1. หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ
2. ระวังไม่ปล่อยให้สิ่งแปลกปลอมเข้าดวงตา
3. สวมใส่แว่นตากันแดด
4. หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีฝุ่นควันเยอะ
5. ตรวจสอบประวัติคนในครอบครัวว่ามีใครเป็นโรคตาหรือไม่
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคต้อหินและโรคจอประสาทตาที่สำคัญ หากมีข้อสงสัยหรือเกิดอาการผิดปกติใดๆ เกี่ยวกับตาควรรีบปรึกษาจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และอย่าลืมตรวจสุขภาพตาเป็นประจำหรือตามที่จักษุแพทย์แนะนำ