รับมือท้องผูกเรื้อรัง รู้ก่อนลดเสี่ยงกว่า!

article-รับมือท้องผูกเรื้อรัง รู้ก่อนลดเสี่ยงกว่า!

Wednesday 03 April 2024

Dr. Worawan Bunraksa

5.00

รับมือท้องผูกเรื้อรัง รู้ก่อนลดเสี่ยงกว่า!

อาการท้องผูก (Constipation) อาจเป็นภาวะที่พบได้ของคนทุกวัย แต่หากมีอาการเป็นๆ หายๆ จนเข้าข่าย “ท้องผูกเรื้อรัง” อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของโรคริดสีดวงทวาร หรือภาวะความดันผิดปกติตามอวัยวะต่างๆ ได้ เช่น ลำไส้ และหัวใจ ชวนเช็กอาการ “ท้องผูกเรื้อรัง” หากเข้าข่ายว่าใช่! ให้เริ่มต้นแก้อาการท้องผูกตามนี้

ดูยังไงว่าแบบไหนเรียก อาการท้องผูกเรื้อรัง ?

แม้อาการท้องผูกจะเป็นอาการที่พบได้ในคนทุกวัย แต่สำหรับอาการท้องผูกเรื้อรังนั้น จะมีระยะเวลาของอาการที่ยาวขึ้น ซึ่งหมายถึง

  • การออกแรงเบ่งอุจจาระมากขึ้น 
  • อุจจาระแข็งมากขึ้น
  • ถ่ายได้น้อยลง ไม่ถึง 3 ครั้งต่อสัปดาห์ 
  • ความรู้สึกถ่ายไม่สุด หรืออุจจาระไม่สุด
  • รู้สึกเจ็บระหว่างเบ่งถ่าย หรือมีเลือดปนออกมา 

โดยแต่ละคนอาจมีอาการมากน้อยไม่เหมือนกัน และมีอาการต่อเนื่องกันประมาณ 3-6 เดือน เรียกว่า “ท้องผูกเรื้อรัง” อีกทั้งในบางรายอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ต้องใช้นิ้วช่วยการขับถ่าย และมักจะไม่มีอาการปวดท้องที่เด่นชัด เป็นเพียงความรู้สึกอึดอัด แน่นท้องที่ไม่ได้ถ่าย เป็นต้น

สาเหตุใกล้ตัว-ต้นตอของอาการท้องผูกเรื้อรัง

อาการท้องผูกเรื้อรังมีสาเหตุตั้งต้นส่วนใหญ่มาจากไลฟ์สไตล์ หรือการใช้ชีวิตประจำวันเป็นหลัก โดยเฉพาะจากพฤติกรรมการกิน โรคประจำตัว สภาวะทางสุขภาพในช่วงเวลานั้นๆ ไปจนถึงการใช้ยาบางชนิด ที่อาจเป็นสาเหตุของโรคท้องผูกเรื้อรังได้ ดังนี้ 

  • โรคของลำไส้ที่ผิดปกติ เช่น การมีเนื้องอกลำไส้ การตีบตันของลำไส้
  • โรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคไตวายเรื้อรัง โรคสมอง โรคเส้นประสาทกดทับ
  • ฮอร์โมนที่ผิดปกติ เช่น ภาวะตั้งครรภ์ ภาวะไทรอยด์ต่ำ
  • การใช้ยาบางชนิด เช่น ยารักษาโรคพาร์กินสัน แคลเซียม ธาตุเหล็ก

สำหรับผู้ที่ไม่มีสาเหตุดังที่กล่าวมา เช่น การเคลื่อนไหวของลำไส้ช้าลง ปัญหาที่ขั้นตอนการเบ่งถ่าย ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาใดที่กล่าวมา อาจเกิดจากภาวะเครียดได้เช่นกัน

สัญญาณเตือน! ที่ต้องรีบมาพบแพทย์
  • ถ่ายมีเลือดปน หรือมีเลือดออกขณะถ่ายอุจจาระ
  • ปวดท้องมากขึ้น หรือรู้สึกท้องอืดจนแน่น
  • น้ำหนักลดผิดปกติ
  • ท้องผูกกลายเป็นถ่ายเหลว ถ่ายไม่คล่อง/ไม่สุด รู้สึกหน่วงที่ก้น
หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ

ประเมินอาการและการรักษาท้องผูกเรื้อรัง

เมื่อมาตรวจหาสาเหตุ แพทย์จะซักประวัติ ตรวจร่างกายเพื่อแยกโรค ก่อนจะทำการตรวจเพิ่มเติมตามลักษณะอาการ โดยอาจใช้การตรวจผ่านผลเลือด หรือประเมินร่วมกับภาพรังสี ซึ่งหากตรวจพบโรคหรือสาเหตุของอาการท้องผูกเรื้อรัง แพทย์จะก็รักษาตามสาเหตุที่ตรวจพบ ควบคู่กับใช้วิธีปรับพฤติกรรมอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น การรับประทานอาหาร การปรับยาช่วยระบาย และการฝึกการขับถ่าย เป็นต้น

กินอะไรดี พร้อมวิธีปฏิบัติตัวเมื่อเริ่มมีอาการท้องผูก

  • รับประทานอาหารที่มีกากใยมากขึ้น 
  • ควรมีทุกๆ มื้อ อาจเป็น ผัก ผลไม้ หรือซีเรียลต่างๆ
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ ประมาณ 2 ลิตร ต่อวัน
  • ออกกำลังกายให้เพียงพออย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ และต่อเนื่องครั้งละ 30-45 นาที
  • ฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลา โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมคือหลังอาหารเช้า

หากเราปล่อยอาการท้องผูกเรื้อรัง ให้เรื้อรังอยู่นาน… อาจเป็นจุดเริ่มต้นของโรคร้ายแรงบางอย่าง เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ สำหรับใครที่มีปัญหาสุขภาพช่องท้องกวนใจ แนะนำให้เลือกกินอาหารที่มีกากใยและโพรไบโอติกส์ แต่หากมีอาการมากเกินปกติควรนัดปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

 

Share:
social-media-iconsocial-media-iconsocial-media-icon

Better health

Related services

บทความที่เกี่ยวข้อง

This website uses cookies

We use cookies to enhance efficiency and provide a good experience on our website. You can manage your cookie preferences by clicking "Cookie Settings" in the privacy policy