นิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ

article-นิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ

วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม 2567

5.00

นิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ

             นิ่วเกิดจากการที่สารบางชนิด เช่น กรดยูริก ออกซาเลต หรือแคลเซียม เข้าไปอุดตันอยู่ตามตำแหน่งต่างๆ ของระบบทางเดินปัสสาวะ โดยเฉพาะบริเวณกระเพาะปัสสาวะ ท่อไต และไต ทำให้เกิดการขัดขวางทางเดินของน้ำปัสสาวะ ปัจจุบันพบว่านิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละปี โดยจะพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง

ศูนย์ระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์

            ให้บริการตรวจวินิจฉัยนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูง นอกจากนี้ยังพัฒนาการผ่าตัดรักษานิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะด้วยการส่องกล้อง ร่วมกับการใช้เทคโนโลยีสลายนิ่วด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย  ซึ่งไม่ทำให้เกิดแผลหรือมีแผลขนาดเล็กมาก ทำให้ผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวได้เร็ว

สาเหตุของการเกิดนิ่ว

   1. กรรมพันธุ์
   2. ความผิดปกติของต่อมพาราทัยรอยด์
   3. ความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น การตีบแคบของท่อปัสสาวะ
   4. การดื่มน้ำน้อย หรือการสูญเสียน้ำจากร่างกายมาก
   5. การรับประทานอาหารที่มีกรดยูริกหรือสารออกซาเลตมากเกินไป
   6. การอักเสบติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
   7. ยาบางชนิด

อาการ

   1. ปัสสาวะลำบากหรือแสบขัด
   2. ปัสสาวะไม่ออกหรือมีเลือดปน
   3. ปวดบริเวณบั้นเอวหรือท้อง ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของนิ่ว

การตรวจวินิจฉัย

   1. การซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด โดยแพทย์เฉพาะทางระบบทางเดินปัสสาวะ
   2. การตรวจปัสสาวะเพื่อค้นหาว่ามีเลือดหรือการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ (Urine Analysis)
   3. การตรวจอัลตราซาวด์ระบบทางเดินปัสสาวะ เพื่อตรวจหาความผิดปกติ (Ultrasound KUB System)
   4. การถ่ายภาพรังสีวินิจฉัย เพื่อดูรูปร่าง ลักษณะ และตำแหน่งของผลึกหรือก้อนนิ่ว (Plain KUB System)
   5. การถ่ายภาพรังสีร่วมกับการฉีดสารทึบรังสีเข้าหลอดเลือดดำ (Intravenous Pyelography - IVP)
   6. การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เพื่อดูความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ (CT KUB System)

การรักษา

   การรักษาขึ้นกับขนาดและตำแหน่งของนิ่ว นิ่วที่ไม่สามารถหลุดออกมาได้เอง มีแนวทางการรักษาหลายวิธี ได้แก่

1.การรับประทานยาละลายนิ่ว เหมาะสำหรับนิ่วชนิดยูริกที่สามารถละลายได้โดยการให้ยา     
2.การสลายนิ่วโดยการใช้คลื่นกระแทก (ESWL: Extracorporeal Shock Wave Lithotripsy)

    คือ การใช้คลื่นเสียงความถี่ต่ำส่งผ่านผิวหนังไปยังก้อนนิ่ว เพื่อทำให้ก้อนนิ่วแตกออกเป็นชิ้นเล็กๆ และไหลหลุดออกมากับปัสสาวะได้โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง การสลายนิ่วโดยการใช้คลื่นกระแทก ส่วนใหญ่จะใช้เพื่อการรักษานิ่วในไตและท่อไต

Stones in the Urinary System 2

3. การส่องกล้องผ่านท่อปัสสาวะเพื่อคล้องหรือกรอนิ่วในท่อไต (URS: Uretero-renoscope)

    วิธีนี้ไม่ทำให้เกิดแผล เนื่องจากเป็นการส่องกล้องผ่านทางรูท่อปัสสาวะที่มีอยู่ตามธรรมชาติ และใช้เครื่องมือคล้องนิ่วหรือกรอนิ่วให้มีขนาดเล็กลง เหมาะสำหรับการรักษานิ่วในท่อไต

Stones in the Urinary System 3

4. การส่องกล้องเพื่อกรอนิ่วในไต (PCNL: Percutaneous Nephrolithotomy)

    เป็นวิธีการรักษานิ่วในไตที่พัฒนามาเพื่อเลี่ยงการผ่าตัด ซึ่งจะใช้วิธีเจาะรูเล็กๆ จากผิวหนังเพื่อผ่านเข้าไปในกรวยไต โดยจะใช้กล้องและเครื่องมือสอดตามเข้าไปกรอนิ่วให้แตกออกเป็นชิ้นเล็กๆ และดูดหรือคีบนิ่วออกมา เหมาะสำหรับนิ่วในไตที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่

Stones in the Urinary System 4

5. การขบนิ่ว (Cystolithotripsy)

    เป็นการใส่เครื่องมือเข้าไปทางท่อปัสสาวะ เพื่อขบนิ่วให้แตกแล้วนำออกมา โดยไม่ทำให้เกิดแผลใดๆ ซึ่งจะใช้เพื่อรักษานิ่วในกระเพาะปัสสาวะ

Share:
social-media-iconsocial-media-iconsocial-media-icon

แพ็คเกจสุขภาพ

บทความที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก "การตั้งค่าคุกกี้" นโยบายความเป็นส่วนตัว