อุดฟันเจ็บไหม ? อาจเป็นคำถามแรกๆ เมื่อเราต้องอุดฟันครั้งแรกในชีวิต! นอกจากคำตอบจะเป็นเพียงแค่ความรู้สึกเสียวฟันที่เกิดขึ้นได้ เหนือสิ่งอื่นใด เมื่อเราทำการอุดฟันแล้วก็ต้องใส่ใจดูแลช่องปากอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เรามีสุขภาพช่องปากและฟันที่แข็งแรงแบบยาวๆ
การอุดฟันคืออะไร ทำไมถึงต้องอุดฟัน ?
การอุดฟัน คือการใช้วัสดุอุดรูหรือโพรงที่เกิดจากฟันผุ เพื่อปิดช่องทางไม่ให้แบคทีเรียหรือเศษอาหารตกเข้าไปจนเกิดความเสียหายแก่เนื้อฟันเพิ่มมากขึ้น เพราะหากปล่อยทิ้งไว้นานจนทะลุโพรงประสาทฟัน อาจทำให้เกิดอาการเสียวฟัน หรือปวดฟันจนไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีการอุด แต่อาจเป็นการถอนหรือรักษารากฟัน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายหลักหมื่นแทน
วัสดุที่ใช้อุดฟัน มีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ ได้แก่
- อมัลกัม (Amalgam) เป็นวัสดุที่นิยมนำมาใช้อุดฟันมากที่สุด เพราะใช้งานง่าย ทำได้รวดเร็วและราคาไม่แพง (เป็นการผสมกันระหว่างปรอท เงิน ดีบุกหรือโลหะอื่นๆ) อยู่ได้ประมาณ 10-15 ปี ทนทาน แต่มักจะไม่ถูกเลือกให้ใช้กับบริเวณฟันหน้า
- คอมโพสิตเรซิ่น (Composite Resin) เป็นวัสดุที่มีสีเหมือนสีฟัน เหมาะกับผู้ที่ฟันผุบริเวณฟันหน้า ช่วยให้ความสวยงามและแข็งแรงทนทาน สามารถอยู่ได้ประมาณ 10 ปี
- กลาสไอโอโนเมอร์ (Glass Ionomer) เป็นวัสดุที่มักใช้อุดฟันเด็กเล็กหรือผู้ที่มีความเสี่ยงต่อฟันผุสูง เพราะสามารถปล่อยฟลูออไรด์ได้ มีอายุการใช้งานประมาณ 5 ปี
FAQ : ตอบคำถามพบบ่อยจากการอุดฟัน Q : อุดฟันเจ็บไหม ? A : โดยมากแล้วการอุดฟันจะไม่สร้างความรู้สึกเจ็บปวดกับคนไข้ แต่อาจมีความรู้สึกเสียวบริเวณที่อุดฟันได้ ซึ่งทันตแพทย์อาจมีการให้ยาชาช่วยบรรเทาเพิ่มเติม Q : อุดฟันใช้เวลานานไหม ? A : การอุดฟันอาจใช้เวลาประมาณ 30 นาที ขึ้นอยู่กับตำแหน่งฟัน ขนาดและระดับของปัญหาฟันผุที่เกิดขึ้น รวมถึงจำนวนฟันที่ต้องอุด Q : อุดฟันแบบไหนดี ? A : หากพูดถึงในแง่ของวัสดุที่ใช้อุดฟัน การอุดฟันด้วยคอมโพสิตเรซิ่นจะได้รับความนิยมมากกว่า เนื่องจากเป็นวัสดุที่มีสีเป็นธรรมชาติแบบเดียวกับฟัน และคนไข้สามารถเคี้ยวอาหารหลังทำฟันได้ตามปกติทันที อย่างไรก็ตาม ทันตแพทย์จะสอบถามความต้องการของคนไข้เป็นหลักก่อนเสมอ |
การเตรียมตัวก่อนอุดฟัน
- อันดับแรกคือการตรวจสุขภาพเหงือกและฟันก่อน เพราะฟันซี่ที่จะอุดได้ต้องเป็นฟันผุที่ไม่ลามไปจนถึงโพรงประสาทฟัน และต้องมีเนื้อฟันเหลือพอให้วัสดุที่ใช้อุดฟันยึดเกาะได้
- หากมีโรคประจำตัวและกำลังรับประทานยาประจำอยู่ ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่และทันตแพทย์ทราบด้วย
- หากมีฟันปลอมแบบถอดได้หรือรีเทนเนอร์ ต้องนำมาด้วย
การดูแลตัวเองหลังอุดฟัน
- ใช้แปรงสีฟันขนอ่อนนุ่มและแปรงฟันให้ถูกวิธี
- ใช้น้ำยาบ้วนปากต่อต้านแบคทีเรียอย่างน้อยวันละครั้งภายใต้คำแนะนำของทันตแพทย์
- ฟันที่ผ่านการอุด ไม่ว่าจะด้วยวัสดุอะไร ควรหลีกเลี่ยงการเคี้ยวของแข็งเกินปกติ เช่น ก้อนน้ำแข็งถั่วตัด กระดูกอ่อน เพราะอาจทำให้วัสดุแตกหรือหลุดได้
“การอุดฟัน” ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากและน่ากลัวอย่างที่หลายคนคิด เพราะเป็นเสมือนการตรวจสุขภาพช่องปากและควรดูแลอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับสุขภาพร่างกาย เพราะหากฟันผุแล้วละเลย ไม่ทำการรักษา ในอนาคตอาจจะสูญเสียฟันแท้ไป และอาจต้องใช้เวลารักษายาวนานกว่าการอุดฟัน
ขอขอบคุณบทความจาก
ทันตแพทย์หญิงวาศินี ลำใย
สาขา: ทันตกรรม