โรคผิวหนังอักเสบจากสารก่อการระคาย (Occupational Irritant Contact Dermatitis)

article-โรคผิวหนังอักเสบจากสารก่อการระคาย (Occupational Irritant Contact Dermatitis)

วันศุกร์ที่ 5 เมษายน 2567

5.00

โรคผิวหนังอักเสบจากสารก่อระคายเคืองอันเกิดจากการสัมผัสสารระคายเคืองหรือพิษของสาร เช่น ผงซักฟอก น้ำยาทำความสะอาด กรด ด่าง สารตัวทำละลาย เป็นโรคผิวหนังจากการประกอบอาชีพที่พบบ่อยที่สุด อาการแสดงอาจแสบร้อนหรือคัน ซึ่งความรุนแรงและรูปแบบของผื่นที่เกิดขึ้นกับคุณสมบัติของสารมากกว่า

กลุ่มเสี่ยง ได้แก่

พนักงานทำความสะอาด ช่างเครื่องยนต์  ช่างพิมพ์ ช่างเสริมสวย  เกษตรกร คนงานก่อสร้าง หรือผู้ที่ต้องทำงานสัมผัสสารระคาย เป็นต้น

สารระคายเคืองที่พบบ่อยในการทำงาน

สบู่ ผงซักฟอก น้ำยาทำความสะอาด แอลกอฮอล์ กรด-ด่าง น้ำยาย้อมผม น้ำยาดัดผม ใยแก้ว น้ำมันหล่อลื่น เอนไซม์ในผักและเนื้อสัตว์ก่อนปรุง เป็นต้น

อาการ มี 2 แบบ ดังนี้

  • อาการแบบเฉียบพลัน เกิดการสัมผัสสารก่อระคายที่มีความเข้มข้นสูงทำให้มีอาการปวดแบบแสบร้อน รู้สึกระคายเคืองหรือคัน ผิวหนังบริเวณสัมผัสจะมีลักษณะแดงบวม มีขอบเขตชัดเจน  ถ้าเป็นมากจะมีตุ่มน้ำพองและอาจมีแผลเหมือนไฟลวก
  • อาการแบบเรื้อรัง เกิดจากการสัมผัสสารก่อระคายเคืองประจำ ประมาณ 2- 8 สัปดาห์ จะมีอาการคัน ตึงผิวหนังบริเวณสัมผัสจะมีลักษณะบวมแดง มีขอบเขตชัดเจน  ถ้าเป็นมากจะมีตุ่มน้ำพองและอาจมีแผลเหมือนไฟลวก

การวินิจฉัย

  • อาการและอาการแสดงเข้าได้กับโรคผิวหนังอักเสบจากการสัมผัส
  • มีประวัติการทำงานสัมผัสสารระคายในระหว่างการทำงาน
  • ผื่นเริ่มเกิดบริเวณที่สัมผัสสารระคาย
  • ไม่พบสาเหตุอื่นนอกเหนือจากการประกอบอาชีพ
  • อาการดีขึ้นในวันหยุดและมีอาการมากขึ้นเมื่อทำงาน
  • มีคนทำงานอย่างเดียวกันเป็นโรคผิวหนังแบบเดียวกัน

การตรวจทางห้องปฏิบัติการ : การทดสอบภูมิแพ้ผิวหนังให้ผลลบ

การป้องกัน

  1. ควรเลือกใช้สารเคมีประเภทที่มีความปลอดภัยมากที่สุด

  2. การหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสิ่งที่ก่อให้เกิดโรคผิวหนัง

  3. การใช้อุปกรณ์ป้องกันผิวหนัง เช่น ถุงมือ เป็นต้น

  4. การทำความสะอาดผิวหนังอย่างเหมาะสม

  5. การดูแลเอาใจใส่ผิวหนัง เช่น การทาโลชั่นเพิ่มความชุ่มชื้นผิวหนัง เป็นต้น

การรักษา

  1. การปรับพฤติกรรม เช่น หลีกเสี่ยงการสัมผัสสิ่งที่แพ้ หรือถ้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ให้ใส่ถุงมือป้องกัน

  2. การรักษาด้วยยาทั้งชนิดทาและรับประทาน ไม่ว่าจะเป็นยาประเภทแก้แพ้หรือยาปฏิชีวนะ ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์

Share:
social-media-iconsocial-media-iconsocial-media-icon

แพ็คเกจสุขภาพ

บทความที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก "การตั้งค่าคุกกี้" นโยบายความเป็นส่วนตัว