ปวดท้องน้อยด้านขวา สงสัยว่าจะเป็นไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis) อวัยวะเล็กๆ ในระบบทางเดินอาหาร ที่หากมีสิ่งแปลกปลอมหลุดรอดเข้าไป หรือมีอุจจาระแข็งตัวจนส่งผลให้เกิดแรงดันภายในไส้ติ่งและอักเสบขึ้นได้ จนทำให้ปวดท้องอย่างรุนแรงบริเวณรอบสะดือลงมาถึงท้องด้านล่างขวา ซึ่งวิธีรักษาในปัจจุบันสามารถทำได้ด้วยการผ่าตัด…
3 ระยะอาการปวด เมื่อ “ไส้ติ่งอักเสบ”
|
การผ่าตัดไส้ติ่ง คืออะไร ?
การผ่าตัดไส้ติ่ง คือวิธีรักษาอาการไส้ติ่งอักเสบ หรือเป็นการผ่าตัดเพื่อนำไส้ติ่งที่มีการอักเสบออกไปนั่นเอง ทันทีที่มีอาการปวดท้องน้อยบริเวณฝั่งขวา หรือมีอาการปวดใกล้เคียงกับที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น ควรให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยในทันที เพราะไส้ติ่งอักเสบไม่สามารถหายเองได้ จำเป็นต้องผ่าตัดไส้ติ่งออกเท่านั้น
ซึ่งการผ่าตัดไส้ติ่งจะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ
- การผ่าตัดแบบเปิด (Open Appendectomy) ซึ่งเป็นการผ่าตัดเปิดแผลขนาดประมาณ 3-10 ซม. บริเวณช่องท้องตรงตำแหน่งของไส้ติ่งโดยตรง
- การผ่าตัดแบบส่องกล้อง (Laparoscopic Surgery) หรือ MIS เป็นวิธีรักษาไส้ติ่งที่เจ็บตัวน้อย เนื่องจากใช้เทคนิคส่องกล้องผ่าตัด แต่การผ่าตัดไส้ติ่งจะขึ้นอยู่กับความรุนแรง โดยแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยร่วมกับความเสี่ยงของผู้ป่วยแต่ละคนร่วมด้วย
การปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดไส้ติ่ง
- หมั่นลุกจากเตียงหลังผ่าตัด 24 ชั่วโมงแรก เพื่อให้ลำไส้มีการเคลื่อนไหวเร็วขึ้น
- งดอาหารและน้ำหลังผ่าตัดวันแรก จนกว่าจะมีการเคลื่อนไหวของลำไส้ ถ้าไม่มีอาการท้องอืด แพทย์จึงจะเริ่มให้รับประทานอาหารเหลว อาหารอ่อนและอาหารธรรมดาตามลำดับ
- พยายามหายใจเข้า-ออก ลึกๆ
- เวลาไอ ให้ใช้มือประคองแผล ป้องกันแผลแยกและลดความเจ็บปวดแผลได้
- รักษาความสะอาดโดยการเช็ดตัว ห้ามให้แผลเปียก หากแผลเปียกน้ำควรเปลี่ยนผ้าปิดแผลทันที
- การรับประทานยาตามแผนการรักษาของแพทย์
- การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ป้องกันไม่ให้มีอาการท้องผูก
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- มาตรวจตามแพทย์นัดสม่ำเสมอ
ข้อห้ามหลังผ่าตัดไส้ติ่ง ห้ามเกาแผลหรือกระทบกระเทือนแผล เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบ บวม แดง ได้ และอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงอื่นๆ หลังผ่าตัดไส้ติ่งตามมาได้
เช็กอาการต้องสงสัย แบบไหนควรต้องพบแพทย์ก่อนถึงเวลานัด!
ในเรื่องของการผ่าตัดไส้ติ่งต้องพักฟื้นกี่วัน จะขึ้นอยู่กับสุขภาพและความแข็งแรงพื้นฐานของผู้ป่วย ร่วมกับการดูแลแผลร่วมด้วย โดยปกติหลังผ่าตัด ผู้ป่วยจะปวดแผลน้อยลงภายใน 2-3 วัน แต่หากมีการติดเชื้อเกิดขึ้น หรือแผลไม่ปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เช่น
- หลังผ่าตัด 2-3 วัน แต่กลับปวดแผลมากขึ้น
- แผลมีหนองหรือน้ำเหลืองซึม
- ขอบแผลผ่าตัดบวมแดงและกดเจ็บ
- มีไข้ เบื่ออาหาร
- ถ่ายเหลวผิดปกติ
- ปวดท้องผิดปกติ
อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่าไส้ติ่งอักเสบไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน และหนึ่งในวิธีป้องกันหรือลดเสี่ยงการเกิดไส้ติ่งอักเสบได้ คือการเลือกรับประทานอาหารที่มีเส้นใยสูงทั้งจากผักและผลไม้ และดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน ควบคู่กับการตรวจสุขภาพประจำปีเป็นประจำร่วมด้วย
ขอขอบคุณบทความจาก
แพทย์หญิงธัญลักษณ์ ศรีบูระเดช
สาขา: ศัลยศาสตร์