วัณโรคเทียม (Nontuberculous Mycobacterium: NTM) เป็นชื่อของเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่หลายคนอาจไม่เคยได้ยินชื่อ แต่กำลังกลายเป็นภัยเงียบที่พบมากขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะในเด็กหรือผู้ที่มีบาดแผลตามร่างกาย
กรณีศึกษา: ตุ่มเล็ก ๆ ที่กลายเป็นฝันร้าย
เคสของเด็กหญิงวัย 2 ขวบ ที่เริ่มมีตุ่มแดงเล็ก ๆ บริเวณขา หลังเดินลุยน้ำท่วมขังบริเวณบ้าน ต่อมากลายเป็นแผลหนองที่ลุกลามอย่างรวดเร็ว
แม้ได้รับการรักษาจากโรงพยาบาลถึง 3 แห่ง แต่แผลก็ยังไม่หาย จนสุดท้ายต้องได้รับการผ่าตัดเอาเนื้อที่ติดเชื้อออกลึกจนเกือบถึงกระดูก โดยแพทย์วินิจฉัยว่าเป็น วัณโรคเทียม ซึ่งเป็น เชื้อแบคทีเรียกินเนื้อชนิดดื้อยา
วัณโรคเทียม คืออะไร?
-
วัณโรคเทียมเป็นแบคทีเรียในกลุ่ม Mycobacteria
-
พบได้ทั่วไปในสิ่งแวดล้อม เช่น ดิน น้ำ ฝุ่นละออง
-
ไม่ใช่เชื้อวัณโรคชนิดปกติ และไม่ติดต่อจากคนสู่คน
-
มักเข้าสู่ร่างกายผ่านแผลเปิดหรือผิวถลอก
-
เชื้อนี้ดื้อยาปฏิชีวนะทั่วไป และหากรักษาช้า อาจลุกลามเข้าสู่กระแสเลือดได้
อาการเบื้องต้นที่ไม่ควรมองข้าม
-
ตุ่มแดงหรือผิวหนังอักเสบเรื้อรัง
-
แผลมีหนองหรือไม่หายแม้ทานยาฆ่าเชื้อ
-
อาการกลับมาเป็นซ้ำแม้ผ่านการกรีดหรือรักษามาแล้ว
-
มีจุดแดงขึ้นใหม่ใกล้แผลเดิม
แนวทางการรักษาวัณโรคเทียม
-
เพาะเชื้อและวินิจฉัยให้ชัดเจน – ต้องทำห้องแล็บเพื่อระบุชนิดของเชื้อ
-
ใช้ยาปฏิชีวนะเฉพาะทาง – ไม่ใช้ยาทั่วไปเพราะเชื้อมักดื้อยา
-
ผ่าตัดเอาเนื้อที่ติดเชื้อออก – กรณีเชื้อไม่ตอบสนองต่อยา
-
ติดตามอาการต่อเนื่อง – อาจต้องรักษานาน 6 เดือนถึง 1 ปี
สรุป
วัณโรคเทียมเป็นโรคที่ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่มีความอันตรายไม่น้อย โดยเฉพาะหากผู้ป่วยมีบาดแผลและอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่อาจมีเชื้อปนเปื้อน การรู้เท่าทันและเข้ารับการรักษาโดยเร็ว คือกุญแจสำคัญในการหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนรุนแรง
หากมีแผลเรื้อรังที่ไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์เฉพาะทางและตรวจเพาะเชื้อทันที