การบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง Hyperbaric Oxgen Therapy (HBOT) คืออะไร

article-การบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง Hyperbaric Oxgen Therapy (HBOT) คืออะไร

วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน 2567

นพ.เถลิงเกียรติ แจ่มอุลิตรัตน์

5.00

การบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง (Hyperbaric Oxygen Therapy : HBOT) เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เข้ามาช่วยดูแลสุขภาพด้วยการใช้ออกซิเจนช่วยบำบัดอาการต่างๆ วันนี้เราขอพาคุณมาทำความรู้จักการบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูงไปพร้อมกันที่นี่

บำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง (Hyperbaric Oxygen Therapy : HBOT) คืออะไร ? รักษาอะไรบ้าง ?

การบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูงเป็นการใช้ออกซิเจน 100% ภายใต้สภาพความกดบรรยากาศสูงที่มากกว่า 1 บรรยากาศ ในเครื่องปรับบรรยากาศ (Hyperbaric Chamber) ที่มีลักษณะคล้ายหลอดแก้วขนาดใหญ่ เพื่อให้ร่างกายได้รับออกซิเจนในปริมาณที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับภาวะปกติ ซึ่งในขณะที่ผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดระดับเม็ดเลือดแดงจะเพิ่มจำนวนขึ้น และออกซิเจนจะทำการจับกับเม็ดเลือดแดง ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนในปริมาณสูงมากกว่าการหายใจใน บรรยากาศปกติ ซึ่งใช้เวลาในการรักษาครั้งละ 60- 90 นาที โดยสามารถช่วยบำบัดอาการต่างๆ ได้ ดังนี้

  1. ช่วยบรรเทาอาการอักเสบของเนื้อเยื่อ 
  2. ลดอาการบวมอักเสบของอวัยวะต่างๆ ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น เช่น แผลกดทับ หรือแผลเบาหวาน
  3. ช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อและหลอดเลือดใหม่ และส่งเสริมการทำงานของระบบหลอดเลือดฝอย
  4. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว
  5. ช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยจากการดำน้ำ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงความดันต่ออวัยวะต่างๆ เช่น ปวดหู มึนศีรษะ

วิธีเตรียมตัวก่อนทำออกซิเจนบำบัดความดันสูง

สำหรับผู้ที่จะทำออกซิเจนบำบัดความดันสูง ควรได้รับการตรวจร่างกายโดยแพทย์ เช่น การเอกซเรย์ปอด ตรวจการทำงานของหูชั้นใน พร้อมรับคำแนะนำวิธีปรับความดันหูและการปฏิบัติตัวระหว่างอยู่ในเครื่อง Hyperbaric chamber ส่วนกรณีของผู้ป่วยเบาหวานต้องได้รับการตรวจน้ำตาลก่อนทำออกซิเจนความดันสูง

ข้อควรระวัง

  • ไม่นำวัสดุที่ก่อให้เกิดประกายไฟ หรืออุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่เข้าไปในเครื่องปรับบรรยากาศ เช่น เครื่องประดับ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แว่นตา นาฬิกา ถอดฟันปลอม คอนแทคเลนส์ก่อนเข้าเครื่อง
  • ผู้รับบริการต้องงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 4 ชั่วโมง งดดื่มแอลกอฮอล์ และไม่กินอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีแก๊สมาก
  • งดฉีดน้ำหอม ใส่เจล หรือใช้เครื่องสำอางที่มีแอลกอฮอลล์ เพราะเป็นสารนำเชื้อเพลิง
  • กรณีที่มีบาดแผลอยู่ ควรเปลี่ยนมาใช้น้ำเกลือแทนการใช้แอลกอฮอล์
  • งดใช้ครีมบำรุงผิวหรือครีมแต่งผมที่มีส่วนผสมของปิโตรเลียม เพราะอาจเป็นเชื้อเพลิงให้กับออกซิเจนบริสุทธิ์ได้
  • ไม่ควรเข้ารับการบำบัดในช่วงที่มีอาการหวัด

ข้อควรรู้ของการบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง

เนื่องจากการบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง (Hyperbaric Oxygen Therapy : HBOT) เป็นการเติมออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อความดันในร่างกายโดยตรง การบำบัดด้วยซิเจนความดันสูงจึงมีข้อจำกัดในผู้ป่วยที่มีประวัติโรคบางชนิด ได้แก่

  • ผู้ป่วยโรคเส้นประสาทตาอักเสบ ติดเชื้อไวรัสต่างๆ 
  • ผู้ป่วยโรคปอดอุดกันเรื้อรัง หรือโรคถุงลมโป่งพอง 
  • ผู้ที่มีภาวะเม็ดเลือดแดงป่องตั้งแต่กำเนิด 
  • ผู้ที่มีอาการลมชักที่ควบคุมไม่ได้ 
  • ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดทรวงอก หรือการผ่าตัดหูชั้นกลาง 
  • ผู้ที่มีประวัติมีภาวะลมรั่วในช่องเยื่อหุ้มปอด ซึ่งเกิดขึ้นเองในผู้ป่วยที่ไม่มีพยาธิสภาพที่ปอดมาก่อน 
  • ผู้ที่มีประวัติเคยผ่าตัดโรคหินปูนเกาะกระดูกหู 
  • ผู้ป่วยที่มีภาวะกลัวที่แคบ 
  • ผู้ที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ 
  • ผู้ที่มีภาวะไข้ น้ำตาลในเลือดต่ำ 
  • ผู้ป่วยมีลมในช่องเยื่อหุ้มปอดที่ไม่ได้รับการรักษา  

จะเห็นได้ว่าการบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง (Hyperbaric Oxgen Therapy : HBOT) เป็นวิธีการรักษาที่ไม่ยุ่งยาก แถมยังให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยฟื้นฟูสุขภาพจากภาวะต่างๆ ได้หลากหลาย ที่สำคัญยังใช้เวลาไม่มากอีกด้วย สำหรับท่านใดที่สนใจการบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูงสามารถปรึกษาและเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ได้ตลอดระยะเวลาทำการ 

ติดต่อเพื่อพูดคุยกับเราเกี่ยวกับการรักษา
หากท่านมีคำถามเพิ่มเติม หรือต้องการนัดหมายเข้ารับบริการ สามารถติดต่อเราได้ผ่านช่องทางด้านล่าง
Line OA: @chghbot  
 
Tel. 0 2033 2900 ต่อ ศูนย์การบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง หรือ 06 3529 6038 

Share:
social-media-iconsocial-media-iconsocial-media-icon

แพ็คเกจสุขภาพ

บทความที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก "การตั้งค่าคุกกี้" นโยบายความเป็นส่วนตัว