กิจกรรมบำบัด vs กายภาพบำบัด ต่างกันอย่างไร?

article-กิจกรรมบำบัด vs กายภาพบำบัด ต่างกันอย่างไร?

วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน 2567

พญ.อารีย์ กิจศิริกุล

5.00

กิจกรรมบำบัด (Occupational Therapy) และกายภาพบำบัด (Physical Therapy) มีความแตกต่างกันในแง่ของวัตถุประสงค์และการฟื้นฟู ดังนี้

กิจกรรมบำบัด (Occupational Therapy)

  • เน้นการฟื้นฟูการใช้ชีวิตประจำวัน: มุ่งเน้นการช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ป่วยให้สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเอง เช่น การแต่งตัว การกินอาหาร การใช้ห้องน้ำ และการทำงาน

  • ส่งเสริมความสามารถในการทำงานและการเข้าสังคม: กิจกรรมบำบัดเน้นการปรับปรุงทักษะทางสังคมและการทำงาน เช่น การฝึกทักษะการสื่อสาร การวางแผน และการจัดการเวลา

  • ให้ความสำคัญกับการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อม: นักกิจกรรมบำบัดจะช่วยแนะนำการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์หรือการจัดสภาพแวดล้อมในบ้านหรือที่ทำงานเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • เน้นการพัฒนาทักษะการคิดและการรับรู้: มีการฝึกฝนทักษะด้านการเรียนรู้ การคิดวิเคราะห์ การแก้ไขปัญหา และการจดจำ เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตและความเป็นอิสระของผู้ป่วย

Occupational Therapy Vs Physical Therapy  What's the Difference2

กายภาพบำบัด (Physical Therapy)

  • เน้นการฟื้นฟูทางกายภาพและการเคลื่อนไหว: มุ่งเน้นการฟื้นฟูความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ การเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย การพัฒนาการเคลื่อนไหว และการฟื้นฟูการทำงานของระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ

  • ลดอาการปวดและฟื้นฟูการทำงานของอวัยวะ: ใช้เทคนิค เช่น การนวด การยืดกล้ามเนื้อ การใช้เครื่องมือช่วยในการกระตุ้นไฟฟ้า และการรักษาด้วยอัลตราซาวด์ เพื่อช่วยลดอาการปวดและอาการบาดเจ็บ

  • ปรับปรุงการทรงตัวและความสมดุล: ช่วยให้ผู้ป่วยที่มีปัญหาในการทรงตัวหรือเดินกลับมามีความสมดุลและมั่นคงมากขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่มีความเสี่ยงในการหกล้ม

  • ฟื้นฟูสมรรถภาพหลังการผ่าตัดหรือบาดเจ็บ: มุ่งเน้นการฟื้นฟูส่วนที่ได้รับบาดเจ็บ เช่น หลังการผ่าตัดข้อเข่า การฟื้นฟูหลังการผ่าตัดกระดูกสันหลัง และการฟื้นฟูหลังการบาดเจ็บจากกีฬา

Occupational Therapy Vs Physical Therapy  What's the Difference1

สรุปความแตกต่าง

  • กิจกรรมบำบัดเน้นที่การปรับปรุงความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน การทำงาน และการเข้าสังคม เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตโดยรวมและความเป็นอิสระ

  • กายภาพบำบัดเน้นที่การฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกาย การเคลื่อนไหว และลดอาการปวด เพื่อช่วยให้ร่างกายกลับมามีความแข็งแรงและทำงานได้อย่างเต็มที่

ทั้งสองศาสตร์นี้ทำงานร่วมกันเพื่อให้ผู้ป่วยกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างอิสระ

Share:
social-media-iconsocial-media-iconsocial-media-icon

บทความที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก "การตั้งค่าคุกกี้" นโยบายความเป็นส่วนตัว