โรคหูดับ เป็นภาวะที่อาจสร้างความกังวลให้แก่ผู้ป่วยอยู่ไม่น้อย เนื่องจากอาการของโรคมักจะแสดงออกมาอย่างกะทันหัน ทำให้ผู้ป่วยจำเป็นต้องค้นหาทางเลือกการรักษาที่มีประสิทธิภาพอย่างรวดเร็ว นั่นก็คือ การบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง (Hyperbaric Oxygen Therapy หรือ HBOT) ซึ่งโรคนี้มีสาเหตุและอาการเป็นอย่างไร และ HBOT สามารถสร้างผลลัพธ์การรักษาได้อย่างไรบ้าง
โรคหูดับ คืออะไร
โรคหูดับ (Sudden Sensorineural Hearing Loss หรือ SSNHL) คือ ภาวะการสูญเสียการได้ยินอย่างกะทันหันและส่วนมากมักจะไม่ทราบสาเหตุ สามารถเกิดขึ้นได้พร้อมกันทั้ง 2 ข้าง แต่มักจะเป็นข้างใดข้างหนึ่งมากกว่า ภาวะนี้ถือเป็นเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีเพื่อเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัว
โรคหูดับ อาการเป็นอย่างไร
-
ความสามารถในการได้ยินลดลงกะทันหัน
-
มีอาการหูอื้อ ได้ยินเสียงรบกวนภายในหู
-
เข้าใจคำพูดหรือแยกแยะเสียงได้ยาก
-
อาจพบวิงเวียนศีรษะร่วมด้วย
โรคหูดับ สาเหตุเกิดจากอะไร
สาเหตุที่แท้จริงของโรคหูดับส่วนมากมักไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่อาจมีสาเหตุจากปัจจัยหลายประการ ดังนี้
-
การติดเชื้อไวรัสที่ส่งผลต่อหูชั้นใน
-
ปัญหาการไหลเวียนโลหิตที่หูลดลง
-
โรคแพ้ภูมิตัวเองที่มุ่งเป้าไปที่หูชั้นใน
-
การบาดเจ็บที่ศีรษะหรือหู
-
การทานยาที่อาจมีผลข้างเคียงต่อหูชั้นใน
-
พบเนื้องอกตรงเส้นประสาทการได้ยิน
โรคหูดับ รักษาได้ไหม ด้วยวิธีไหนได้บ้าง
การรักษาโรคหูดับ สามารถทำได้ตั้งแต่การทานยาในผู้ป่วยที่ยังไม่มีอาการรุนแรง โดยยาที่ใช้ทานจะเป็นยาต้านการไวรัสในกรณีที่สงสัยว่ามีการติดเชื้อไวรัส หรือยาขยายหลอดเลือดเพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังหูชั้นใน หลังจากนั้นหากยังไม่ได้ผลก็จะมีการฉีดสเตียรอยด์เข้าไปที่หูชั้นในเพื่อลดการอักเสบฟื้นฟูการได้ยิน รวมไปถึงจะมีการรักษาด้วย Hyperbaric Oxygen Therapy หรือ HBOT ซึ่งเป็นอีกทางเลือกการรักษาที่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อระบบร่างกายน้อย สามารถฟื้นฟูได้ลึกถึงระดับเซลล์เนื้อเยื่อ
แนวทางการรักษาโรคหูดับด้วย HBOT
สำหรับแนวทางการรักษาโรคหูดับด้วย Hyperbaric Oxygen Therapy หรือ HBOT ถือว่ามีประสิทธิภาพอย่างยิ่งเมื่อเริ่มรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยตารางการรักษาแพทย์จะให้ผู้ป่วยเข้าเครื่องปรับบรรยากาศ (Hyperbaric chamber) เพื่อรับออกซิเจนบริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์ และจะค่อย ๆ ปรับเพิ่มความดันบรรยากาศไปที่ประมาณ 2.0-2.5 ATA ซึ่งใช้เวลาในการรักษาประมาณ 90 นาทีต่อครั้ง รวมแผนการรักษาทั้งหมดจะอยู่ที่ประมาณ 10-20 ครั้ง นั่นเอง
ตลอดการรักษาแพทย์จะคอยติดตามการได้ยินของผู้ป่วยเพื่อปรับเปลี่ยนแผนตามการตอบสนองของผู้ป่วย รวมไปถึงจะมีการพิจารณาการรักษาอย่างระมัดระวังหากใช้ร่วมกับการรักษาด้วยสเตียรอยด์
HBOT ส่งผลต่อการรักษาโรคหูดับอย่างไรบ้าง
-
เพิ่มการส่งออกซิเจน: HBOT สามารถเพิ่มปริมาณออกซิเจนที่ละลายในเลือดได้อย่างมาก และระดับออกซิเจนที่เพิ่มขึ้นนี้จะถูกส่งไปยังหูชั้นใน ซึ่งเป็นบริเวณที่อาจประสบปัญหาเรื่องการไหลเวียนของเลือดที่ลดลง ทำให้ช่วยฟื้นฟูภาวะสูญเสียการได้ยินได้
-
ส่งเสริมการซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์: สืบเนื่องจากเซลล์ของหูชั้นใน มีความสำคัญอย่างยิ่งในการแปลงคลื่นเสียงให้เป็นสัญญาณประสาท เมื่อเซลล์เหล่านี้มีความเสียหาย HBOT ก็จะไปส่งเสริมการซ่อมแซมและการสร้างเซลล์ใหม่เพิ่มโอกาสในการฟื้นฟู
-
ลดอาการบวมที่หูชั้นใน: โรคหูดับมักจะส่งผลให้เกิดอาการอักเสบภายในโครงสร้างหูชั้นใน HBOT จึงสามารถช่วยลดอาการบวมนี้ ปรับปรุงการทำงานของการได้ยินให้ดีขึ้น
-
การไหลเวียนของเลือดเพิ่มขึ้น: HBOT ช่วยส่งเสริมการสร้างเส้นเลือดใหม่และเพิ่มการไหลเวียนของเลือดผ่านเส้นเลือดฝอยที่มีอยู่ โดยการไหลเวียนที่เพิ่มขึ้นนี้ช่วยให้หูชั้นในได้รับออกซิเจนและสารอาหารเพียงพอ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการฟื้นฟูโรคหูดับ
การบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง (Hyperbaric Oxygen Therapy หรือ HBOT) สามารถปรับปรุงผลลัพธ์การได้ยินในผู้ป่วยโรคหูดับได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการรักษาแบบทั่วไป เช่น การทานยา การฉีดสเตียรอยด์ไม่เพียงพอ ซึ่งการใช้ HBOT นี้ถือเป็นที่ยอมรับ มีผลข้างเคียงน้อย ทำให้เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยในหลากหลายกลุ่ม
ติดต่อเพื่อพูดคุยกับเราเกี่ยวกับการรักษา
หากท่านมีคำถามเพิ่มเติม หรือต้องการนัดหมายเข้ารับบริการ สามารถติดต่อเราได้ผ่านช่องทางด้านล่าง
Line OA: @chghbot
Tel. 0 2033 2900 ต่อ ศูนย์การบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง หรือ 06 3529 6038